นัก football ฮาเมส คือใคร คุยหลังโก มาเล่าให้ฟัง

ถ้าเกิดคุณเป็นเด็กผู้ชายชาวโคลอมเบีย ย่อมมีความต้องการที่ไม่มีความต่างกันนัก นั่นเป็นเติบโตเพื่อเป็นนักเตะอาชีพ
ความนิยมชมชอบเกมลูกหนังตรงนั้นราวกับการส่งผ่านดีเอ็นเอ ตั้งรกรากลึกมายาวนาน แปลงเป็นเทรดดิชั่นหรือความนิยมที่มิได้น้อยไปกว่าพวกบราซิลหรือประเทศอาร์เจนตินาเลย
ท่ามกลางปัญหาเยอะแยะที่เกิดขึ้นภายในประเทศอีกทั้งอาชญากรรมแล้วก็สิ่งเสพติดที่ก่อตัวอย่างหนักในทศวรรษ 80 ลากยาวถึง 90 ความกลัวคือเรื่องธรรดาสำหรับทุกคน เหมือนกันกับความตายที่อยู่ใกล้มากมายๆเสมือนจ่อคอหอย
บอลก็เลยเป็นเลิศในสิ่งสนุกสนานที่แทรกอยู่ในความมืดดำของโคลอมเบียในสมัยนั้น

สำคัญมากพอๆกับกันเป็น ถ้าคุณเป็นนักเตะมีฝีเท้าและก็เกียรติศักดิ์ จังหวะจะก้าวผ่านสังคมเสื่อมแล้วก็เต็มไปด้วยอันตรายมีสูงมากมาย
แต่ว่า ฮาเมส โรดริเกซ ไม่ถูกไปจากเด็กโคลอมเบียนทั่วๆไป มิได้เผลอไผลในบอลมาก่อน เพียงแค่เล่นกับสหายบันเทิงใจไปตามประสา
เนื่องจากว่าเกิดขึ้นมาในครอบครัวที่มีฐานะค่อนข้างจะดี การดำรงชีวิตมิได้อัตคัตขาดแคลนเสมือนบุคคลอื่น บิดาก็เลยมั่นใจว่าลูกชายคนนี้ควรจะเกื้อหนุนให้เอาดีทางบอล หลายหนที่เคยดูแล้วฉายแววให้มองเห็นเสมอๆ
เมื่อบิดากล่าวว่าให้ไปฝึกฝนในอะคาเดมี่ชั้นแนวหน้า ฮาเมส กลับบอกปัดในตอนแรก การันตีว่าความฝันไม่ใช่การเป็นนักเตะอาชีพเลย
บิดาก็เลยตอบกลับมาเพียงแค่ให้ไปสมัครเล่นเพื่อความเบิกบานใจ เป็นนันทนาการขั้นต่ำก็ช่วยทำให้ไกลห่างจากสิ่งเสพติด
“จริงๆผมมิได้ขอร้องอะไรเลย บิดาจับมือผมไปสถานศึกษาบอลแล้วกรอกเอกสารสำหรับสมัครให้”
ลึกลงไปแล้ว ฮาเมส ไม่ค่อยต้องการจะไปพบกับผู้คนไม่คุ้นหน้ามากเท่าไรนัก ส่วนหนึ่งส่วนใดมาจากอาการพูดติดอ่างและไม่ชัด มีปัญหาการติดต่อสื่อสารรวมทั้งมักถูกล้อเลียนบ่อยๆ

การโดนบูลลี่เรื่อยๆมา ทำให้ความเชื่อมั่นและมั่นใจหายไปเรื่อยกระทั่งมีนิสัยเขินอายประจำตัวในเวลาถัดมา
เพียงพอปิ้งเข้าวัยรุ่นถึงแม้การออกเสียงจะเริ่มชัดขึ้น ติดต่อรู้เรื่องไม่ยาก แต่ทว่าเรื่องของความมั่นใจและความเชื่อมั่นมันเรียกคืนกลับมายากจริงๆ
แต่ว่าด้วยความสามารถพิเศษในบอลที่ส่องแสงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆกระทั่งเลื่องลือไปทั่ว ทำเอาบิดาชักสับสน จากที่ตามใจลูกไม่บังคับให้เป็นลำแข้งอาชีพ ก็เริ่มแลเห็นอนาคตอันยิ่งใหญ่บนฟลอร์ต้นหญ้า
โดยเหตุนี้เลยตกลงใจว่าจ้างจิตแพทย์มาช่วยบรรเทาความรู้สึก หวังว่าลูกชายจะดียิ่งขึ้น กล้าที่จะแสดงออกซึ่งๆหน้าสาธารณะ
ฮาเมส ปรับปรุงขึ้นเป็นลำดับ จากที่การออกเสียงมีปัญหา เข้าใจแปร่งๆก็แจ่มกระจ่างกว่าเดิมมากมาย ความแน่ใจเบาๆกลับมา ไม่ค่อยกลัวการอยู่ต่อหน้าต่อตาหมู่คนราวกับอย่างที่เคย
อย่างไรก็แล้วแต่ผลพวงจากการตายของ อันเดรียส เอสโกบาร์ สมัยก่อนลำแข้งกลุ่มชาติโคลอมเบียที่ถูกยิงอย่างสลดในปี 1994 ข้างหลังยิงเข้าประตูตัวเองในบอลโลกรอบในที่สุด ทำให้คนใกล้ตัว ฮาเมส เริ่มหลอนขึ้นมาอีกรอบ

หากแม้เหตุการณ์ต่างๆดียิ่งขึ้นแล้ว แต่ว่าเอาเข้าจริงบอลก็ยังไม่บางทีอาจแยกขาดจากอาชญากรรม การเดิมพันแล้วก็สารเสพติดที่รังควานโคลอมเบียตลอดมา
ความรู้สึกที่เลวทรามถูกซ้ำเติมด้วยชีวิตของ อาร์เลย์ โรดริเกซ ผู้มีอำนาจเป็นอาของ ฮาเมส ซึ่งถูกยิงดับอย่างน่าสังเวช ข้างหลังพวกกลุ่มค้ายาแล้วก็ชิงทรัพย์โจรกรรมเจตนาจะลักขโมยรถจักรยานยนต์
แม้กระนั้น อาร์เลย์ ไม่ยินยอมกล้วยๆต่อต้านดิ้นรนต่อสู้ กระทั่งฝั่งตรงข้ามชักปืนมารัวกระหน่ำ 6 แผล ยื้อไม่ไหวไปเสียชีวิตที่โรงหมอ
สำคัญไม่น้อยกว่ากันเป็น ทางสู่ลำแข้งอาชีพของ อาร์เบย์ กำลังสวยกำลังงามและก็เต็มไปด้วยแสงสว่างที่ความมุ่งหวัง ในวัย 19 ปีเขาถูกดันขึ้นชุดใหญ่ของอินดิเพนเดียน เมเดลินชมรมในบริเวณนั้น
เวลาเดียวกันยังมีการเผยเพิ่มเติมอีกว่า ในตอนวัยเด็กของ ฮาเมส ยังได้พบกับ กุสตาโม้ อดอลโฟ อูเปกี ผู้ฝึกสอนกลุ่มเยาวชน ซึ่งวันหลังมาสืบรู้เพราะเกี่ยวโยงกับสารเสพติด

ว่ากันว่า อูเปกี ปฏิบัติงานให้ราชาสารเสพติดอย่าง ขว้างโบล เอสโกบาร์ มาสม่ำเสมอและไม่เคยกลัวเลย แม้ว่าจะเคยโดนยัดตารางถึง 12 ครั้งร่วมกัน ด้วยข้อกล่าวหาสิ่งเสพติดและก็เกี่ยวข้องกับการสังหาร
เรียกว่ากว่าจะหลุดพ้นจากวังวนที่ความต่ำช้าร้ายมาได้ ฮาเมส จะต้องต่อสู้เยอะมาก

แต่ว่าเมื่อถึงจุดหนึ่งแล้ว เขาบอกกับตนเองเลยว่าอาจจะไม่มีอะไรมายับยั้งได้อีกแล้ว

ฮาเมส โรดริเกซ เป็นด้ามจับตามากขึ้นเรื่อยในปี 2006 บานฟิลด์สมาพันธ์ชั้นหนึ่งของลีกประเทศอาร์เจนตินา เพียรพยายามยื่นข้อเสนอดึงตัวไปร่วมกลุ่ม
แต่ว่าเวลานี้เพิ่งจะอายุ 15 ปีเพียงแค่นั้น ครอบครัวก็เลยเป็นห่วง อยู่ห่างไกลเกินความจำเป็น เลยฝืนใจเป็นไม่ยอมรับ
เขาก็เลยไปตั้งตัวกับเอ็นวิกาโด้ ชมรมในระดับดิวิชั่น 2 ด้านในปีเดียวก็สามารถเลื่อนสู่ลีกสูงสุดได้เสร็จ ก่อนที่จะสร้างสถิติแปลงเป็นลำแข้งอายุน้อยสุดลำดับสองในประวัติศาสตร์ลีกโคลอมเบีย ซึ่งได้ลงเล่นในลีกสูงสุด ด้วยวัยไม่ถึง 16 ปี
ต่อจากนั้นในปี 2008 บานฟิลด์หวนมาสนทนาเพื่อคว้าตัวไปร่วมกลุ่มอีกที โอกาสนี้ ฮาเมส ตอบตกลง ด้วยเหตุว่าวัย 17 ปีโตเพียงพอจะดูแลตนเองได้แล้ว
สถิติถูกบันทึกอีกรอบเมื่อ ฮาเมส มีชื่อเป็นหน้าแข้งอายุน้อยสุดที่ซัลโวประตูได้ในลีกสูงสุดประเทศอาร์เจนตินา
ต่อจากนั้นปี 2009 ฮาเมส ลงเล่นทุกเกมในลีกอีกด้วยครบทั้งสิ้น 30 นัดหมาย ขณะที่ทุกรายการ 39 นัดหมายจัดไปทั้งมวล 9 ประตูร่วมกัน
ช่วงดังที่กล่าวมาแล้วแมวมองของปอร์โต้ ซึ่งมีกระจัดกระจายอยู่เยอะแยะในอเมริกาใต้ แสดงความพึงพอใจ ฮาเมส อย่างยิ่ง ก่อนที่จะตกลงใจคว้าไปร่วมกลุ่มในช่วงฤดูร้อนปี 2010 ค่าตอบแทนถึง 5.1 ล้านยูโร โดยเซ็นสัญญา 4 ปีมีค่าฉีกถึง 30 ล้านยูโรร่วมกัน

นอกเหนือจากโชว์ผลงานอันเร่าร้อนกับปอร์โต้ในหน้าที่เพลย์เมคเกอร์อายุน้อยร้อยล้าน ยามรับใช้กลุ่มชาติประเทศอาร์เจนตินาในระดับเยาวชนก็มีดีกรีไม่แพ้กัน
ในศึกบอลโลกรุ่นอายุต่ำลงยิ่งกว่า 20 ปีหรือ FIFA U-20 World Cup 2011 ฮาเมส เอารางวัลแอสซิสต์มากมายสุดของทัวร์นาเมนต์
และก็ตามด้วยหน้าแข้งเยี่ยมยอดรายการตูลงในปีเดียวกัน อย่างที่ทราบนี่เป็นทัวร์นาเมนต์ที่ช่วยปลุกปั้นดันกระทั่งดาวรุ่งแจ้งกำเนิดในแวดวงมากมายก่ายกองคนจำนวนไม่น้อย
แน่ๆว่าชื่อของ ฮาเมส ตกอยู่ในจุดโฟกัสมากยิ่งขึ้นแสงสว่างสปอร์ตไลต์สาดมาอย่างมากถ่วง โดยยิ่งไปกว่านั้นในฤดูกาล 2011/12 ที่ฟอร์มปังอย่างมาก 14 ประตู 11 แอสซิสต์ทุกรายการในสีเสื้อปอร์โต้
จนกระทั่งถูกโหวตให้คว้าผู้เล่นเยี่ยมที่สุดชั้น 2 ของ LPFP หรือคัดเลือกเฉพาะในลีกสูงสุดประเทศโปรตุเกส ด้อยกว่าเพียงแต่ ฮัลค์ หัวหอกเพื่อนฝูงร่วมกลุ่มเพียงแค่นั้น
12 ประตู 12 แอสซิสต์ในฤดูกาลต่อมา ยิ่งตอกย้ำซ้ำเติมความยอดเยี่ยม ฮาเมส ให้หนักแน่นมากยิ่งกว่าเดิม เป็นการเปิดประตูย้ายสู่โมนาโกในช่วงฤดูร้อน 2013 ค่าจ้างพุ่งถึง 45 ล้านยูโรอย่างยิ่งจริงๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรแม้เทียบกับผลงาน
ไม่มีอะไรมาขวาง ฮาเมส ได้ดังเดิมตั้งประณิธานเอาไว้ เขาไม่อยากเวลาปรับพฤติกรรมหรือศึกษาอะไรเท่าไรนัก จัดไปเหนาะๆ10 ประตูกับอีก 14 แอสซิสต์ในทุกรายการ
แม้กระนั้นเกียรติคุณเป็นที่เลื่องลือมากมายๆก็ตอนบอลโลก 2014 แม้ว่าจะมิได้ครองแชมป์โลกกับกลุ่มชาติโคลอมเบีย ก็ยังปัดกวาดเกียรติยศส่วนตัวเยอะแยะ ไล่ตั้งแต่โกลเด้นบอลหรือดาวซัลโวสูงสุด , ติดออลสตาร์หรือกลุ่มเหมาะสมที่สุด , ติดดรีมทีมหรือกลุ่มในฝัน และเข้าวินประตูเหมาะสมที่สุดประจำทัวร์นาเมนต์

มันเย้ายวนมากพอสำหรับเรอัล มาดริดจะยอมจ่าย 70 ล้านยูโรในปี 2014 ฮาเมส สารภาพว่านี่เป็นสมาพันธ์ในฝัน นักฟุตบอลอเมริกาใต้ต่างก็ต้องการมาใส่เสื้อสีขาวของกษัตริย์ที่ยุโรปร่วมกันทั้งหมด
ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างเริ่มได้อย่างงดงาม 17 ประตู 18 แอสซิสต์จาก 46 เกมทุกรายการที่บดลำแข้ง ภายใต้การทำงานกับ คาร์โล อันเชล็อตว่ากล่าว มันราบรื่นสดชื่นมากมาย
จนถึงเก้าอี้ผู้จัดการทีมฟุตบอลแปลงมาให้ ราฟา เบนิเตซ นั่งต่อ ฮาเมส ก็ยังได้รับความไว้ใจ จนกระทั่งมาถึงสมัยของ ซีเนดีน ซีดาน โน่นแหล่ะ ที่หมอกเบาๆปกคลุมเข้ามา
ถึงแม้ ซีดาน จะมิได้กล่าวออกมาดังว่า “คุณไม่ใช่เด็กของผม” หรือ “ไม่อยู่ในแนวทางสร้างกลุ่มของผม” แม้กระนั้นเป็นที่รู้กันอยู่ว่ากำเนิดอะไรขึ้น

มันเป็นตอนๆในตอนที่ทรมาทรกรรมมากมายๆกระทั่งการย้ายไปบาเยิร์น มาดริดแบบยืมตัว ก็ไม่บางทีอาจแก้ไข เพราะเหตุว่ารู้สึกถึงค่าของตนไม่มากพอ
เมื่อหลุดพ้นออกมาอีกรอบ ได้ร่วมงานกับ อันเช่ แม้ว่าจะเล่นให้เอฟเวอร์ตันกลุ่มระดับกลางมิได้แม้กระทั้งไปเล่นบอลถ้วยยุโรปแต่ทว่า ฮาเมส ไม่เคยตั้งแง่เลย
เขาพร้อมกลับมาเริ่มเพื่อเกียรติและก็พิสูจน์ให้มองเห็นฝีเท้าที่จริงจริง
2 นัดหมายผ่านไปในลีกกับลูกอมสีน้ำเงิน ฮาเมส แสดงให้มองเห็นถึงคลาสอันเหมาะสมที่สุด มันมากพอจะเขย่าแวดวงลูกหนังอังกฤษรวมทั้งสะกิดให้ผู้ใดกันแน่ที่เคยเฉยเมยหันมามองดู
มันราวกับเป็นการถอยหลังไปนับหนึ่งใหม่ แต่ว่าเปี่ยมไปด้วยความสมัครใจอย่างแท้จริง

กว่าจะมาถึงจุดนี้ ฮาเมส จำเป็นต้องต่อสู้อะไรมามากไม่น้อยเลยทีเดียว